อัพเดทล่าสุด: 30 ม.ค. 2566 | 395 ผู้ชม | พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นำทีมขยายผลจับผู้ต้องหา 2 คดีพื้นที่เชียงใหม่ คนจีนสวมบัตร และแก๊งจีนไลฟ์สดมีเพศสัมพันธ์ 15 ธ.ค 65
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นําทีมขยายผลจับผู้ต้องหา 2 คดีพื้นที่เชียงใหม่ คนจีนสวมบัตร และแก๊งจีนไลฟ์สดมีเพศสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 30 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายลักพาตัวนายเหริน ไฮ่ ป๋อ สัญชาติจีน โดยมี น.ส.อริสรา ศุภสิริบัณฑิตย์ แฟนสาวสัญชาติไทยมาแจ้งความเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตํารวจสามารถสืบสวนจับกุมผู้ก่อ เหตุชาวจีนได้ทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ภ.จว.ชลบุรี ดําเนินคดีตามกฎหมายไปแล้วนั้น ในระหว่างการสืบสวนคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตํารวจได้มีการสอบปากคํา น.ส.อริสรา ศุภสิริบัณฑิตย์ เพื่อเป็น พยานในคดีดังกล่าว ระหว่างการสอบสวนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของ น.ส.อริสราฯ เจ้าหน้าที่พบพิรุธหลายอย่าง อาทิ เช่น ไม่สามารถระบุชื่อและใบหน้าของพ่อแม่ของตนได้ ทําให้เจ้าหน้าที่ตํารวจเกิดข้อสงสัยในประเด็นดังกล่าว จึงได้นํา เรียน่ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตํารวจ เดินทางไปตรวจสอบประวัติของ น.ส.อริสราฯ โดยละเอียด เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้ไปตรวจสอบกับพ่อและแม่ของ น.ส. อริสราฯ ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ได้นํารูปของ น.ส.อริสราฯ ให้ทั้งสองดู ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักและไม่ เคยเห็นหน้าบุคคลดังกล่าวมาก่อน โดยยืนยันว่า ทั้งคู่เคยมีบุตรสาวชื่อ น.ส.อริสรา ศุภสิริบัณฑิตย์ จริง แต่เ สียชีวิต แล้วตั้งแต่อายุ 2 ขวบเท่านั้น แต่ไม่ได้มีการแจ้งการเสียชีวิต เนื่องจากที่พักอยู่ในถิ่นกันดาร เดินทางลําบาก เจ้าหน้าที่ ตํารวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ณ ที่ว่าการอําเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็น สถานที่ที่ น.ส.อริสราฯ ขอมีบัตรประจําตัวประชาชน เพื่อตรวจสอบรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่ออกบัตรให้ น.ส.อริสราฯ เมื่อ วันที่ 17 มิ.ย.65 และรวบรวมพยานหลักฐานและซักถามปากคําบุคคลที่เกี่ยวข้อง จนสามารถดําเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ จํานวน 4 ราย ประกอบด้วย 1. นายเพิ่มเกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ปลัดอําเภอเชียงดาว (จับกุม) 2. นายอาเบ แซ่ลี่ กํานัน และผู้ดูแลมูลนิธิ (จับกุม) 3. นายอมรเทพ ปุกคํา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ (จับกุม) 4. นายวาเซ คล่องดารณี บิดาของ น.ส.อริสราฯ ตัวจริง (หลบหนี) จากการสืบสวนทราบว่า นายเหรินไฮ่ป๋อ แฟนของ น.ส.อริสราฯ ได้ติดต่อกับนายอาเบฯ และนายอมรเทพฯ เพื่อให้ทําบัตรประชาชนให้ โดยได้มีการโอนค่าใช้จ่ายรวมเป็นเงินกว่า 7 แสนบาทสําหรับค่าดําเนินการ โดยมีการแบ่ง ให้ผู้ร่วมขบวนการทั้ง 4 ราย มีนายอาเบและนายอมรเทพเป็นคนดําเนินการ โดยได้มีการพาตัวนายวาเซฯ ซึ่งเป็นพ่อ ของ น.ส.อริสราฯ ตัวจริง ให้มารับสมอ้างเป็นบิดา แต่เนื่องจากนายวาเซฯ ไม่เคยเห็นหน้าของผู้ว่าจ้างมาก่อน ทําให้ ตอนที่เจ้าหน้าที่ไปซักถามจึงแจ้งว่าไม่รู้จักบุคคลดังกล่าว และมีนายเพิ่มเกียรติฯ เป็นเจ้าหน้าที่ในการออกบัตรให้ เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้ดําเนินคดีกับผู้ต้องหาจํานวน 4 ราย ในความผิดฐาน เป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติ หน้าที่โดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทําเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทําตามหน้าที่ รับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทําการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใด ได้กระทําต่อหน้าตนอัน เป็นเท็จด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทําให้ผู้อื่นหรือ ประชาชนเสียหาย, ปลอมเอกสารสิทธิหรือเอกสารราชการ, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทําตามหน้าที่จดข้อความอัน เป็นเท็จฯ, ร่วมกับบุคคลที่มิได้มีสัญชาติไทย ยื่นคําขอมีบัตรด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือปกปิดความ จริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ได้ดําเนินคดีกับ น.ส.อริสรา ศุภสิริบัณฑิตย์ หรือ น.ส.หย่ง ในความผิดฐาน เป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติ ไทย ทํา ใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทําการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อ หรือมีรายการอย่างหนึ่ง อย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารการทะเบียนราษฎร์อื่นโดยมิชอบ, แจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตรประจําตัวประชาชน, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทําให้ ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทําการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร มหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สําหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทําการตามหน้าที่จดข้อความ อันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สําหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, และเป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ทําหรือใช้ หรือแสดงหลักฐานอัน เป็นเท็จ หรือกระทําการเพื่อให้ตนเองมีชื่อ หรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทะเบียน ราษฎร์อื่นโดยมิชอบ อีกกรณีหนึ่ง เป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตํารวจได้มีการขยายผลจับกุมกรณีแก๊งชาวจีนไลฟ์สดการมีเพศสัมพันธ์ผ่าน แอบจีนชื่อ ตาต้าไลฟ์ หลังจากที่เมื่อวันที่ 26 พ.ค.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ TICAC ได้มีการเข้าตรวจค้นรี สอร์ท 2 แห่ง ในพื้นที่ จ.เชียงราย ตรวจพบแก๊งคนจีนเช่าสถานที่ดังกล่าวในการไลฟ์สดมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอพจีน โดย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จํานวน 14 คน รวมทั้งบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาวอีก 30 คน และต่อมาเมื่อวันที่ 19 ต.ค.65 ได้ทําการขยายผลจากกรณีดังกล่าว จนสามารถดําเนินคดีกับผู้ต้องหาได้อีกจํานวน 5 ราย และตัวนักแสดงอีก 19 ราย ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นําเสนอข่าวไปแล้ว นั้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.ตม.3 ได้ทําการตรวจสอบแอพที่ใช้ในการถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์พบว่า ยังมี การถ่ายทอดสดอยู่ จึงได้ทําการสืบสวนเพิ่มเติมจนทราบว่า มีการใช้สถานที่ในการถ่ายทําดังกล่าวที่บริเวณคอนโดอา คาเดีย บีช คอนติเนนทอล หมู่ 10 ซ.ทัพพระยา 9 ถ.ทัพพระยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พื้นที่ สภ.เมือง พัทยา เจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.ตม.3 ร่วมกับ สภ.เมืองพัทยา จึงได้ขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดพัทยา เข้าค้นภายในห้อง D801 คอนโดอาคาเดีย บีช คอนิเนนทอล พบกลุ่มผู้ต้องหากําลังถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์อยู่ โดยสามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้จํานวน 7 ราย ประกอบด้วย 1. นายอาหลง มาเยอะ ทําหน้าที่ล่ามแปลภาษาจีน และควบคุมการถ่ายทํา 2. นายธันวา เรืองชิต นักแสดง 3. นายพีรพล กําริสุ นักแสดง 4. นายนนท์ธนา แถมสุข นักแสดง 5. นายวรินทร์ลดา คําอ้วน นักแสดง 6. นายสิทธิศักดิ์ คชสงคราม นักแสดง 7. น.ส.จิราพัชร์ จันต๊ะนาเขต นักแสดง/จัดคิวนักแสดง/ดูแลสถานที่ถ่ายทํา จากการสอบถามทราบว่า ได้มีบอสคนจีนสั่งการมาชื่อว่า มะปราง หรือน.ส.เสว ลี่ เหว่ย อายุ 33 ปี ซึ่งอยู่ที่ ประเทศจีน โดยยังมีนักแสดงที่ทําการหมุนเวียนมาถ่ายทําที่สถานที่ดังกล่าวอีกจํานวน 19 คน และมีคนทําหน้าที่ใน การนําเงินค่าจ้างมาให้ รวมทั้งดูต้นทาง เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงออกหมายจับในส่วนของผู้จัดการถ่ายทําเพิ่มอีก 1. น.ส.เสว ลี่ เหว่ย หรือมะปราง เป็นบอส 2. นายสุพรรณ ทรัพย์แย้ม เป็นผู้ดูแลการไลฟ์สด 3. นายปิยะกร คําเสียง คนดูต้นทางและคนจ่ายเงินนักแสดง 4. นายสมพงษ์ แซ่หยัง ล่ามแปลภาษาจีนและควบคุมการถ่ายทํา 5. นายจี้ เจิ้ง แพน เป็นผู้รับเงินจาก น.ส.มะปราง มาจ่ายนักแสดง รวมทั้งยังออกหมายจับนักแสดงเพิ่มอีก 19 คน โดยทั้งหมดจะถูกดําเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันเพื่อ ความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทํา ผลิต มีไว้ นําเข้าหรือยังให้นําเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือ ทําให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่อง หมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ร่วมกันประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น, และร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในคดีแรกที่มีการขยายผลจับกุมได้นั้น เกิดจากเจ้าหน้าที่ตํารวจมีความใส่ใจในการ ทํางาน สามารถตั้งข้อสังเกตจากการซักถามปากคํา จนนํามาสู่การตรวจพบการกระทําความผิดของชาวจีนที่หา ช่องทางในการสวมบัตรคนไทย เพื่อสามารถมาประกอบธุรกิจในประเทศไทยได้ โดยสามารถขยายผลจับกุมเจ้าหน้าที่ รัฐที่เปิดช่องให้คนไม่ดีสามารถเข้ามากระทําความผิดในประเทศไทยได้ ซึ่งจากนี้จะได้สั่งการให้ขยายผลตรวจสอบ เพิ่มเติมว่ามีชาวต่างชาติใช้วิธีการสวมบัตรคนไทยอีกหรือไม่ หากตรวจพบก็จะดําเนินคดีโดยเด็ดขาดจนถึงเจ้าหน้าที่ รัฐทุกราย นอกจากนี้ ในส่วนของการขยายผลกลุ่มแก๊งชาวจีนที่ใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ในการถ่ายทอดสดการมี เพศสัมพันธ์ผ่านแอพ หารายได้จากการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ โดยครั้งนี้สามารถขยายผลจับกุมผู้ควบคุมการ ถ่ายทําและนักแสดงซึ่งเต็มใจมาร่วมกระทําความผิดดังกล่าวได้จํานวนมาก เป็นอีกคดีหนึ่งที่ชาวจีนบางส่วนท่ไี ม่ดี ได้มาลงทุนทําธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้นจะยังมีการขยายผลเพื่อติดตามจับกุมบุคคลเหล่านี้ที่เข้ามาทําสิ่ง ผิดกฎหมายในประเทศไทย เพื่อนํามาดําเนินคดีและผลักดันออกจากประเทศไทยให้หมด รับเฉพาะคนดีเข้ามา ช่วยเหลือพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้าต่อไป